ปลายฝนต้นหนาว กับการระบาดของ RSV

ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงนอกจากจะให้ร่างกายต้องปรับตัวแล้วยังเป็นการมาของโรคระบาดชนิดต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นนอกจากจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายแล้ว ก็ต้องรู้จักโรคระบาดเพื่อป้องการการรับเชื้ออีกด้วย

ภาพประกอบจาก เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ

RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus คือไวรัสที่มาพร้อมกับช่วงปลายฝนต้นหนาว ก่อให้เกิดโรคทางระบบหายใจทั้งส่วนบนและล่างส่งผลให้มีเสมหะออกมาจำนวนมาก มักเกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็ก ผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อสังเกตุอาการ

อย่างไรก็ตามหากมีสุขภาพร่างกายที่ดีจะสามารถหายได้เอง แต่กับเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังต่ำ ในกลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีโรคปอด โรคหัวใจ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงหากมีการติดเชื้อ RSV โดยที่สามารถติดต่อได้ทางการไอ จาม หรือจากน้ำมูก น้ำลาย ซึ่งการเสียชีวิตมักมาจากภาพวะแทรกซ้อนจากการหายใจล้มเหลว โรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกันอีกทั้งเมื่อติดเชื้อก็จะต้องรักษาตามอาการเท่านั้น

การป้องกันการติดเชื้อ RSV ทำได้ด้วยการล้างมือให้สะอาด การใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในที่คนพลุกพล่าน ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อขับเสมหะและป้องกันสภาวะขาดน้ำ ไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน หากเป็นเด็กเล็กยังไม่หย่านมให้ดื่มนมแม่ให้มากที่สุดตามต้องการ

โปสเตอร์ให้ข้อมูลการรับมือไวรัส RSV โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

การสังเกตุผู้ติดเชื้อสามารถทำได้ โดยเบื้องต้นจะมีการฟักตัว 3-6 วัน หลังจากนั้นจะมีอาการคล้ายเป็นหวัด มีน้ำมูก จาม ไอ ซึ่งอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีเสมหะมาก เหนื่อยหายใจหอบ หายใจมีเสียงหวีด โดยอาจเกิดได้จากหลอดลมตีบ หรืออักเสบ

ช่วงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นช่วงที่เราจะต้องดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างใกล้ชิด เตรียมร่างกายให้ให้พร้อมอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ก็ควรจะหมั่นดูแลเพื่อให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีสุขภาพดี

Leave a Comment